กิ่งผักไชยา ยาว 25-30 ซม.
กิ่ง ยาว25ซม.
หนัก0.07 กก.(70กรัม)
ผักไชยา หรือบางคนเรียก ต้นชายาต้นมะละกอกินใบ ต้นคะน้าเม็กซิกัน ต้นผงชูรส (ภาษาสเปน Chaya) ชื่อทางพฤกษศาสตร์ Cnidoscolus chayamansa ชื่อวงศ์ Euphorbiaceae เป็นไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ลักษณะใบสีเขียวคล้ายใบมะละกอ เมื่อเด็ดออกมาจะมียางสีขาว ต้นโตง่าย สามารถสูงได้ถึง 6 เมตร รสชาติไม่ขม ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ได้รับความนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารในประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลา และประเทศแถบอเมริกากลาง
มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักโขมถึง 2 เท่า
ต้นไชยาอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก แล้วยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักโขมถึง 2 เท่า มีแคลเซียมสูงถึง 421 มิลลิกรัม มากกว่าผักทั่วไปอื่นๆหลายเท่า จึงนิยมกันมากในคนที่กินมังสวิรัติเพราะมีคุณค่าทางอาหารสูง
ประโยชน์และสรรพคุณ ของ ผักไชยา
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
2. ช่วยในการหมุนเวียนโลหิต
3. ช่วยย่อยอาหาร
4. ช่วยในการมองเห็น
5. บำรุงสายตา
6. รักกษาโรคหอบหืด
7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
8. ช่วยบรรเทาริดสีดวงทวาร
9. ช่วยลดน้ำหนัก
10. ป้องกันอาการไอ
11. ล้างพิษในตับ
12. ป้องกันอาการปวดหัว
13. เพิ่มแคลเซียมให้กระดูก
14. รักษาโรคกระดูกพรุน
15. ลดการสะสมและลดการติดเชื้อในปอด
16. ป้องกันโลหิตจางโดยเพิ่มธาตุเหล็กให้กับเลือด
17. ควบคุมระดับน้ำตาลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
18. ช่วยบรรเทาโรคไขข้ออักเสบ
19. ปรับสมดุลของระบบการเผาผลาญ
20. ลดการอักเสบในเส้นเลือด
21. ช่วยฆ่าเชื้อในปอด
22. บำรุงสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ผักไชยา นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารโดยใช้ส่วนของยอดอ่อนและใบ เมื่อเด็ดยอดอ่อนแล้วต้องนำมาปอกเปลือกออก ในเมืองไทยนิยมนำมาทำเมนู ผัดไชยาน้ำมันหอย ผักไชยาผัดไข่ ผัดราดหน้า ผัดซีอิ๊ว แกงส้ม ลวกจิ้มกับน้ำพริกก็ได้
ต้องทำให้สุกก่อนกิน เพราะดิบ ๆ มีพิษ
ต้นไชยามีพิษจึงควรระวังอย่างมากเพราะมีสารกลูโคไซด์ซึ่งจะปล่อยสารพิษจำพวกไซยาไนด์ออกมาจึงต้องทำให้สุกก่อนกินเพื่อทำลายฤทธิ์ของสารพิษลง ควรนำไปต้มหรือผัดอย่างน้อย 1 นาที ส่วนก้านสามารถนำมาทำอาหารได้เช่นกันแต่ต้องลอกเปลือกออก ไม่มีกลิ่นเขียว รสชาติหวานกรอบคล้ายผักคะน้า ข้อควรระวังคือห้ามต้มในภาชนะอะลูมิเนียมเพราะอาจทำให้น้ำต้มเป็นพิษและก่อให้เกิดอาการท้องร่วงได้