ส่งฟรี ชาอู่หลงต้าหงเผา AA มาจากฝูเจี้ยนอู่อี๋ซาน 武夷大红袍AA Dahongpao AA (Ted Robe) Oolong Tea from Fujian Wuyi mountain
รายละเอียดของชาต้าหงเผา
The signature taste of Dahongpao is distinctively floral .(Roasted flavor)
ชาอู่หลงต้าหงเผามาจากภูเขาอู่อี๋ซานของมณฑลฝูเจี้ยน บนนั่นมีต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์ 6 ต้น ชาอู่อี๋ต้าหงเผาเป็นเสมือนเพชรนำ้งามในบรรดาชาที่มีชื่อของจีน ได้รับสมญาว่าเป็น“ชาจองหงวน” ชาต้าหงเผาจัดว่าเป็นราชาของชาเหยียน (ชาเหยียน=ชาผาหิน เป็นชาที่ขึ้นอยู่บนผาหิน)ได้รับการขนามนามว่าเป็น “ราชาแห่งชาเหยียน” ถือว่าเป็นสัมบัติอันล้ำค่าของประเทศชาติ ชาต้าหงเผา จัดอยู่ในประเภทชาอู่หลง หรือ ชากึ่งหมัก
ลักษณะของใบชาต้าหงเผานั้นเป็นเส้นยาวพับแน่นทบกันเข้ามาทางด้านข้างสู่กลาง สีเข้มเขียว ขอบใบสีน้ำตาลแดง ใบชาครบถ้วนสมบูรณ์ไม่เป็นเศษใบยาวเรียวเสมอกันหรือใกล้เคียงกัน ให้กลิ่นหอมของกล้วยไม้ป่าผสมกับกลิ่นปิ้งไฟอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาจากเขาอู่อี๋ซาน จิบดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจ ล้างพิษรักษาแผล อาการผิดปกติในลำไส้ สลายร้อนขับชื้น รสชาติเข้มข้นทั้งน้ำทั้งกลิ่น ชัดเจนแต่ไม่แสบฉุน หอมหวานแต่ไม่เลี่ยน น้ำชามีความมันเงาประกาย ดื่มแล้วลื่นคอไม่ฝืดเคืองระคายคออย่างไร กากชานั้นย่อมต้องพิจารณาดูหากเป็นของชั้นดีกากชาจะสวยงามเป็นใบครบสมประกอบ สีเขียวครามขอบใบอมแดงน้ำตาล ใบค่อนข้างหนาว ยาวใหญ่ แม้เป็นกากชาก็ยังมีกลิ่นระเหยลอยออกมา เช่นนี้จึงเป็นชาชั้นดี
ใบชาต้าหงเผา (Dahongpao) นับเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้หลักของมณฑลฝูเจี้ยนชาต้าหงเผาจัดอยู่ในประเภทชาอู่หลง (Oolong Tea) โดยมณฑลฝูเจี้ยนขึ้นชื่อว่าเป็น “แหล่งกำเนิดของชาอู่หลง” ชาประเภทอู่หลงเป็นชาจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1000 ปีนับตั้งแต่สมัยราชวงค์ฮั่น “ชาต้าหงเผา” ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งชาจีน” โดยถูกขยายพันธุ์จากต้นชาแม่พันธุ์ 6 ต้นที่มีอายุกว่า 350 ปีที่ขึ้นในบริเวณภูเขาอู่อี๋ซานของมณฑลฝูเจี้ยน ในแต่ละปี ผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นดังกล่าวมีเพียงไม่ถึง 100 กรัมเท่านั้น “ชาต้าหงเผา” ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งชาจีน” โดยถูกขยายพันธุ์จากต้นชาแม่พันธุ์ 6 ต้นที่มีอายุกว่า 350 ปีที่ขึ้นในบริเวณภูเขาอู่อี๋ซานของมณฑลฝูเจี้ยน ในแต่ละปี ผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นดังกล่าวมีเพียงไม่ถึง 100 กรัมเท่านั้น
ปัจจุบันทางการจีนจัดให้มีตำรวจเฝ้ารักษาความปลอดภัยต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์นี้ตลอด 24 ชั่วโมงและในช่วงก่อนปี 2549 ผลผลิตใบชาจากต้นแม่พันธุ์ทั้งหมดจะถูกจัดส่งให้แก่รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อนำส่งรัฐบาลกลางสำหรับมอบเป็นของขวัญทางวัฒนธรรมให้แก่แขกระดับสูงจากต่างประเทศ เช่น ในปี 2548 รัฐบาลเมืองอู่อี๋ซานส่งมอบผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นชาแม่พันธุ์จำนวน 20 กรัม ให้แก่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนที่กรุงปักกิ่งเพื่อการเก็บรักษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นใบชาชนิดแรกที่ถูกเก็บสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน ต่อมาในปี 2549 รัฐบาลฝูเจี้ยนออกนโยบาย “ถิงไฉ่หลิวหยั่ง”(停采留养) คือการยกเลิกเก็บใบชาจากต้นแม่พันธุ์ดังกล่าวเพื่อให้ต้นชาทั้ง 6 ต้นได้พักฟื้นฟูความแข็งแรงในส่วนของลำต้น รวมทั้งรักษาสภาพที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่ดีของต้นแม่พันธุ์ นอกจากนี้ รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้จัดตั้งศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับใบชาต้าหงเผาอู่อี๋ซาน เพื่อนำไปขยายพันธุ์ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ในปี 2556 ต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO
茶叶功效
ชาต้าหงเผา จึงเป็นชาสมุนไพรที่สรรพคุณผสมผสานกันอย่างลงตัว
สรรพคุณของชาต้าหงเผา ที่เห็นได้ชัดคือ :
* ลดไขมันและคอเรสเตอรอลในร่างกาย
* ป้องกันโรคหัวใจ และสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
* ต่อต้านอนุมูลอิสระที่กระตุ้น ให้มีการก่อตัวของตะกอนไขมันที่ผนังหลอดเลือด
* ช้วยชำระสารพิษในร่างกาย
* ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
* บำรุงระบบประสาท บำรุงสมอง
* ต้านอนุมูลอิสระ ขับสารพิษจากร่างกาย
* ปรับสมดุลร่างกาย บำรุงธาตุร่างกาย
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ค้องการดูแลสุขภาพ ผิวพรรณ ใช้ชงดื่มเป็นประจำวัน จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดกลับเป็นปกติ ช่วยลดอาการต้อกระจกของผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่เริ่มดื่มชา และผู้ที่ดื่มชาอยู่แล้ว ผู้ที่ใช้สมองทำงานหนัก มีความเครียด และต้องการลดนำ้หนัก ลดความอ้วน ดักสลายไขมัน ต้องการดูแลสุขภาพในระยะยาว สามารถดื่มได้วันละลิตร หรือมากกว่า1ลิตร
冲泡方式 วิทีการชงชาต้าหงเผา
น้ำที่ชงชาอุณหภูมิควรจะเป็นน้ำเดือด100องศา ใช้น้ำเดือดลวกใบชา1ครั้ง แล้วชงอีกทีใช้เวลาสกัดชาประมาณ 1-3 นาที ชงนำ้ได้ 5-7 รอบ หรือจนกว่าน้ำชาจะจืด สีน้ำชาออกเหลืองอำพัน หรือ แดงอำพัน กลิ่นของชานั้นจะหอมแบบกลิ่นคั่ว
储存方法
วิธีเก็บรักษาชา
•ใช้ภาชนะมีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้า
•ไม่ควรให้ใบชาถูกอากาศโดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงจากแสงแดด
•หลีกเลี่ยงความชื้น เพราะความชื้นจะเป็นตัวทำลายคุณภาพของใบชา
•ไม่ควรนำภาชนะที่มีกลิ่นมาบรรจุใบชา หรือเก็บใบชาไว้ใกล้กับสิ่งของที่มีกลิ่น
•ไม่ควรใช้มือหยิบจับชาโดยตรง เพราะอาจทำให้ชาเสียรสชาติได้ ควรใช้ช้อนตักชา